วันพุธ, พฤษภาคม 11, 2554

กว่างโจว เมืองแห่งอนาคต เมืองที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง



อีกสองชั่วโมงกว่าจะถึงจุดหมาย ผมหยิบ Time Magazine ขึ้นมาพลิกอ่าน สะดุดตากับรายงานของ Mckinsey Global Institute ว่าด้วย  "25 เมืองที่จะมีรายได้เติบโตมากที่สุดของโลกในปี 2025"
ข้อมูลยืนยันว่าเศรษฐกิจจีนกำลังมาแรงอย่างแน่นอน เมืองใหญ่ของจีน 7 เมือง ได้แก่ Shanghai Beijing Shenzhen Tianjin Chongqing Guangzhou และ Hongkong ถูกคาดการ์ณว่าจะสามารถสร้างรายได้สูงเป็นอันดับต้นๆของโลกโดยกวาดให้เมืองเก่าจากยุโรปและอเมริกา อย่าง Madrid Milan Brussels Frankfurt Miami Atlanta หรือแม้แต่ Toronto ตกอันดับไปอย่างง่ายดาย จีนกำลังก้าวกระโดดเป็นผู้กำหนดอนาคตของโลก การพลิกฟื้นเศรษกิจจากประเทศยากจนข้นแค้นจนกลายเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาด้วยระยะเวลาอันสั้น เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์
จีนทำให้โลกตื่นตากับงาน Beijing 2008 Olympic Games และอีกสองปีต่อมา ประสบการ์ณ World Expo 2010 ที่เซี่ยงไฮ้ ทำให้ผมเห็นความมุ่งมั่นของรัฐบาลจีนที่ต้องการให้โลกรับรู้พลังของคนจีนยุคใหม่ ผมเห็นคนสูงอายุ คนหนุ่มสาว หรือแม้แต่เด็กเล็ก กระตือรือร้นที่อยากเรียนรู้ อยากสัมผัสเทคโนโลยี่นำสมัย อยากเข้าใจโลกใหม่ ผมรู้สึกถึงความพร้อมของคนจีนที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลง อยากเป็นผู้นำมากกว่าผู้ตาม ผมเข้าใจได้กับการลงทุนอย่างมโหฬารที่จีนต้องการให้โลกมีมุมมองใหม่ รับรู้ว่าจีนวันนี้ไม่ใช่จีนไร้รสนิยมอีกต่อไป เพราะว่าที่นี่คือ เซี่ยงไฮ้ เมืองเศรษกิจอันทรงพลังของโลกตะวันออก
 
Canton Fair จัดที่ กว่างโจว Guangzhou เป็นงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของจีน จัดมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี1957 เป็นประจำปีละ2ครั้ง 15เมษายน - 5พฤษภาคม และ 15ตุลาคม- 4 พฤษจิกายน จัดแสดงที่ China Import and Export Complex บนพื้นที่ขนาด 1,160,000 ตารางเมตร ที่นี่เป็นจุดหมายของนักธุรกิจกว่า 2แสนคนจากทุกมุมโลก คาดว่าจะมีรายได้จากการขายสินค้ามูลค่ามากกว่า 30000 ล้านเหรียณสหรัฐ เป็นครั้งแรกที่ผมจะมีโอกาสมาเยือน กว่างโจว มาร่วมงานแสดงสินค้าระดับโลก ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก ความรับรู้ของผม ฮ่องกง เซ้นเจ้น น่าจะคึกคักและมีสีสันกว่าเมืองนี้หลายเท่าตัว
   
หากใครไปลอนดอน คงไม่พลาดที่จะไปแวะเวียนห้าง Primark บนถนน Oxford Street ที่เป็นจุดนัดพบของหนุ่มสาวชาวอังกฤษ และนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ทุกคนสนุกกับการจับจ่ายเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ยอมเข้าแถวต่อคิวกันยาวเหยียดเพื่อซื้อสินค้าราคาถูก คุณภาพดี ที่สำคัญส่วนใหญ่ผลิตจากประเทศจีน ผมเชื่อว่าเกือบ100% เป็นสินค้าที่ผลิตมาจากเมืองกว่างโจว 2วันเต็มที่ผมมีโอกาสเดินสำรวจงาน Canton Fair ผมตื่นตาตื่นใจ และยอมรับว่า กว่างโจว เป็นโรงงานผลิตสินค้าของโลกอย่างแท้จริง จีนมีความสามารถในการผลิตสินค้าทุกประเภท และจีนวันนี้พยายามอย่างเต็มที่ ที่จะเปลี่ยนภาพพจน์จาก Made in China 
ผลิตสินค้าราคาถูกด้อยคุณภาพ เป็น Created in China เพราะประสบการ์ณรับจ้างผลิตสินค้าชั้นนำจำนวนมหาศาลให้กับคนทั้งโลก คนจีนสั่งสมความรู้ความเชี่ยวชาญ จนสามารถพัฒนาสินค้าคุณภาพของตัวเองได้ แค่ผลิตเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศ1600 ล้านคนก็มากเกินพอแล้ว สินค้าจำนวนมากของจีนได้ก้าวข้ามการลอกเลียนแบบ ด้วยการลงทุนสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้คนทั่วโลกยอมรับ รวมทั้งรัฐบาลยังสนับสนุนให้นักออกแบบรุ่นใหม่ออกเดินทางแสดงผลงานในเทศกาลงานออกแบบชั้นนำระดับโลกอย่างจริงจัง
 
กว่างโจว เป็นเมืองใหญ่ มีผู้คนอาศัยทำมาหากินเกือบ15ล้านคน แต่กว่างโจวกลับรื่นรมณ์ด้วยต้นไม้ใหญ่อย่างน่าชื่นชม ริมถนนหนทาง ริมแม่น้ำ หรือแม้แต่ตามตรอกซอกซอยก็เขียวชอุ่มสดชื่น ให้ร่มเงาช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี ที่น่าแปลกใจต้นไม้ส่วนใหญ่ที่ปลูกริมถนนในเมืองกว่างโจว เป็น ต้นไทร หลากหลายต้นที่ผมได้พบเห็นมีอายุมาก ลำต้นใหญ่โตแข็งแรง รากไทรย้อยสวยงามแปลกตา ผมมีโอกาสไปเที่ยววัดพุทธ อายุกว่า1400 ปี ในวัดมีพระพุทธรูปหล่อด้วยทองแดงองค์ใหญ่ที่สุดของเมืองกว่างโจวให้สักการะ มีประวัติเล่าว่า กวีในราชวงค์ Song ต้นศตวรรตที่11 ชื่อ Su Dongpo มาเยี่ยมชมวัดนี้เห็นต้นไทรหกต้นงดงาม ประทับใจ เลยเรียกชื่อวัดใหม่ว่า The Tempel of Six Banyan Trees ปัจจุบันยังเหลือต้นไทรเก่าแก่ สองต้น ไม่รู้ว่านี่จะเป็นที่มาของการชอบปลูกต้นไทรทั่วทั้งเมืองกว่างโจวหรือเปล่า
 
หลังการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ของ Asian Games Guangzhou 2010 เพื่อให้โลกรู้จักเมืองหลวงของมลฑลกวางตุ้งด้านทิศใต้ของจีนแล้ว กว่างโจวพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง นอกจากสนามบินนานาชาติ ทางด่วนยกระดับ โครงข่ายรถไฟใต้ดินระยะทางหลายร้อยกิโลเมตรที่ให้ประชาชนเดินทางสะดวกปลอดภัยราคาถูก กว่างโจว ได้ลงทุนสร้างเมืองใหม่ชื่อ Zhujieng New Town ให้ที่นี่เป็นอนาคตใหม่ของเมืองกว่างโจว เป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำระดับโลก โรงแรมหรูระดับ5ดาว แต่ทั้งหมดไม่สำคัญเท่ากับการลงทุนมหาศาลในการสร้างแหล่งความรู้ใหม่ให้กับประชาชน
 
ถ้า หอประชุม ดร ซุน ยัด เซ็น ที่สร้างในปี1925 เป็นสถาปัตยกรรมที่ประชาชนช่วยกันบริจาคเงิน สร้างเพื่อแสดงความรักต่อผู้นำการปฎิวัติประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ของเขา พรรคคอมมิวนิสส์จีนตั้งใจสร้างจตุรัสความรู้บนเมืองใหม่อย่างเอางานเอาการ ก็เพื่อตอบแทนประชาชนเมืองกว่างโจวที่อดทนทำงานหนักมาอย่างยาวนานเช่นกัน
ผู้บริหารเมืองกว่างโจว ตัดสินใจสร้าง Guangzhou Opera House มูลค่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเชิญ บริษัทสถาปนิกชั้นนำของโลก ได้แก่ Coop Himmelblau จากออสเตรีย Rem Koolhass จากฮอลแลนด์ และ Zaha Hadid จากอังกฤษ มาประกวดความคิด เพื่อสร้างที่พักผ่อนหย่อนใจให้กับประชาชน เพื่อประกาศความก้าวหน้าทางวัฒนธรรมให้โลกได้รับรู้ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า Koolhass น่าจะเป็นผู้ชนะเพราะเขาคุ้นเคยเมืองกว่างโจวเป็นอย่างดี กรรมการตัดสินส่วนใหญ่ชอบแนวคิด Flame of Passion จากงานร่วมสมัยของ Himmelblau แต่ผู้บริหารเมืองกว่างโจว กลับคิดต่างอย่างน่าชมเชย ประกาศให้ประชาชนเจ้าของ
เมืองเป็นผู้ออกเสียงตัดสินเลือกแบบโรงละคอนของตัวเอง วันที่ 7 พฤษจิกายน 2002 ประชาชนเมืองกว่างโจวตกลงเลือก งานของ Zaha Hadid สถาปนิกหญิงชาวอังกฤษ เชื้อสายอิรัค ด้วยเหตุผลเพราะงานของเธอเข้าใจวิถีชีวิตของคนกว่างโจวอย่างลุ่มลึก
 
 
 
  
Hadid ชนะด้วยแนวคิด "กรวดสองก้อน" Double Pebbles เธอศึกษาเพลงพื้นบ้านของกว่างโจวชื่อ "ก้อนกรวดกลางแม่น้ำ" ทึ่เนื้อร้องบอกเล่าเรื่องราวของประกามาจากสรวงสวรรค์ จนเป็นที่มาของชื่อแม่น้ำไข่มุกในปัจจุบัน ประชาชนชอบแนวความคิดของเธอ ชอบรูปทรงอาคารที่อ่อนน้อมถ่อมตน วางตัวมั่นคงท่ามกลางตึกสูงเสียดฟ้า ให้ความรู้สึกสงบคู่กับสายน้ำสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงผู้คนมามากกว่า 2000 ปี
 
Zhujieng New Town ไข่มุกแห่งกว่างโจว ยังเป็นที่ตั้งของ The Guangdong Province Museum ออกแบบโดย Rocco Yim สถาปนิกจากฮ่องกง ที่นี่รวบรวมงานศิลปะชั้นนำของมลฑลกวางตุ้งมากกว่า130,000 ชิ้น อาคารทรงสี่เหลี่ยมสีเทาดำ เจาะช่องหน้าต่างเลียนแบบศิลปจีน ปล่อยแสงเรืองรองยามคำ่คืนเหมือนกล่องมหัศจรรย์ ถัดไปไม่ไกลเป็น The Guangzhou Library อาคารสูง 50เมตร ออกแบบเหมือนหนังสือนับล้านล้านเล่มวางเรียงซ้อนกันไปมา เป็นคลังความรู้ที่สมบูรณ์แบบสำหรับโลกยุคใหม่ ทั้งหมดนี้ไม่ได้อยู่ในแผนการท่องเที่ยวของบริษัททัวร์ โชคดีที่ผมค้นพบข้อมูลก่อนการเดินทาง เพราะอยากมีโอกาสเห็นผลงานของสถาปนิกระดับโลกเลยขอร้องให้ไกด์ช่วยพามา ผมเดินเที่ยวชมบริเวณโดยรอบท่ามกลางสายฝนโปรยปราย ค่ำแล้วยังมีนักท่องเที่ยวเดินถ่ายรูปมากพอสมควร ไกลออกไป เห็นแสงไฟระยิบระยับ จาก Canton Tower หอส่งสัณญาณทีวีสูงที่สุดในโลก รูปทรงอ่อนช้อยตั้งใจให้เป็นสัญญลักษณ์แทนความงดงามของสาวชาวกว่างโจว กลุ่มอาคารในเมืองใหม่ ถูกจัดวางอย่างเหมาะเจาะ ทุกมุมมองยื่งใหญ่ตระการตา ผมวางแผนว่าจะกลับมาที่นี่อีกครั้งและคงตัองใช้เวลาทั้งวันสำหรับการสำรวจย่านนี้อย่างละเอียด
 
คุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศไม่ได้ถูกวัดจากตึกสูง รถไฟฟ้า ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ รถยนต์ราคาแพงที่วิ่งอยู่บนท้องถนน 4วันสั้นๆที่ผมเดินผ่านกว่างโจว ผมเห็นสวนสาธารณะที่ออกแบบเปิดโล่ง ไม่ต้องมีรั้วปิดกั้นให้อึดอัดใจ ผมได้เดินบนถนนคนเดินที่หนาแน่นผู้คนสนุกกับจับจ่ายใช้สอย ผมเห็นบ้านเมืองสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบเรียบร้อย ร้านรวงกระฉับกระเฉงกับการค้าขาย ผมเห็นเมืองที่ให้ความสำคัญกับความรู้และเทคโนโลยี่สมัยใหม่ เมืองที่เคารพคุณค่าของบรรพบุรุษ เมืองที่ให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างมีคุณภาพของคนหนุ่มสาว 

กว่างโจว เป็นเมืองที่มีพลัง ผมเห็นการขับเคลื่อนที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง และผมไม่แปลกใจที่ กว่างโจว ถูกทำนายให้เป็นเมืองแห่งอนาคต เป็นเมืองที่จะมีบทบาทสำคัญยิ่ง ในการกำหนดทิศทางการเติบโตของโลก ในอีก 10ปี ข้างหน้า  ่